ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บบล๊อก ของคนรักหนูแฮมสเตอรนะครับ ขอบคุณครับ

วันศุกร์, กรกฎาคม 25, 2551

ดูแลหนูที่เพิ่งเกิด

การดูแล ลูกหนูแฮมเสตอร์

ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรมากครับ สำหรับการเลี้ยงและดูแลลูกแฮมสเตอร์ที่เพิ่งเกิด หน้าที่ของเราก็คือดูแม่หนูเลี้ยงลูกอยู่ห่างๆครับ ปล่อยให้แม่หนูเลี้ยงและดูแลลูกเอง หน้าที่ที่เราพอจะทำได้ก็คือ การทำความสะอาดกรง ให้อาหารและน้ำ ซึ่งลูกแฮมสเตอร์ต้องกินอาหารจำนวนค่อนข้างมาก จึงเลี่ยงไม่ได้ที่เราจะต้องเตรียมอาหารให้เพียงพอตลอดเวลา นอกจากนี้ แม่หนูที่กำลังตั้งท้อง หรีอเลี้ยงดูลูกอ่อน ก็ต้องการน้ำในปริมาณมาก

บางทีสิ่งที่สำคัญสุดในการเพาะลูกหนูแฮมสเตอร์ก็คือการเลือกพ่อและแม่แฮมสเตอร์ที่มีสุขภาพดี และมีสายเลือดที่ดี

พัฒนาการของลูกหนูและการดูแล

คลิ๊กที่นี่เพื่อดูพัฒนาการของลูกหนูครับ http://www.hamperhams.co.uk/baby/hhbaby1.htm และ http://www.hamperhams.co.uk/baby_ww/hhbaby1.htm

ส่วนภาพนี้เป็นภาพขณะแม่หนูกำลังคลอดลูก

ก่อนที่แม่หนูจะคลอดลูก
แม่หนูจะตั้งท้องประมาณ 17 วัน ซึ่งประมาณ 3-4 วันก่อนที่แม่หนูจะคลอดลูก แม่หนูจะทำความสะอาดกรงครั้งใหญ่ และ จะพยายามหาเศษวัสดุต่างๆที่อ่อนนุ่มมาเตรียมสร้างรังสำหรับเตรียมพร้อมรับลูกที่จะเกิดขึ้นมา ( เราอาจจะหาทิชชู่แบบที่ใช้ในห้องน้ำมาใส่เอาไว้ในกรง เพื่อให้เค้าเอาไปทำรังก็ได้ครับ ซึ่งทิชชู่เป็นวัสดุที่ค่อนข้างดี ) แม่หนูจะฉีกวัสดุสำหรับทำรังให้เป็นขนาดเล็กลง และพยายามสร้างเป็นรัง โดยใช้กระดาษทิชชู่ที่เราใส่ลงไปนั่นเอง เอามาสานเข้าด้วยกัน พยายามอย่าไปหาวัสดุที่เหนียวมาใส่ เพราะอาจจะทำให้ไปพันขา หรือพันคอลูกหนูอาจจะทำให้ลูกหนูไปติด และหายใจไม่ออกตายได้

เมื่อลูกหนูเกิด
ป็นภาพแฮมสเตอร์แคระขณะที่เพิ่งเกิด เทียบกับเหรียญ 5 บาทและเม็ดถั่วเขียว

เมื่อลูกหนูเกิดออกมา ลูกหนูจะยังมองไม่เห็น ยังไม่ลืมตา ไม่มีขน และ หูยังไม่ได้ยิน ลูกหนูจะต้องพึ่งแม่หนูตลอด ซึ่งแม่หนูสามารถจะออกลูกได้ตั้งแต่ 1 ตัวจนถึง 20 ตัวในแต่ละครั้ง ซึ่งแม่หนูจะรู้ตัวดีว่าเค้าสามารถจะเลี้ยงดูลูกหนูกี่ตัว จึงจะไหว และจะทำการลดลูกหนูเอง โดยจะทิ้งลูกจากตัวที่อ่อนแอที่สุดก่อน

ลูกหนูที่เพิ่งเกิด
แม่หนูจะเบ่งลูกออกมาทีละตัว จนหมด ซึ่งการออกลุกจะไม่ได้ออกรวดเดียวติดต่อกันหมด จะคลอดห่างกันหลายนาทีเหมือนกันครับ ระหว่างคลอดแม่หนูจะมีการวิ่งไปมาหาน้ำกินบ้างเหมือนกัน ดังภาพ

บางทีลูกหนูจะพยายามเคลื่อนตัวสะเปะสะปะไปมาในกรง ระหว่างที่แม่หนูกำลังคลอดลูกตัวอื่นๆ พยายามอย่าไปรบกวนครับ หลังจากที่แม่หนูออกลูกเสร็จ และมีโอกาสพักผ่อน แม่หนูจะค่อยๆตามหาลูกและรวบรวมลูกของตัวเองมาไว้ในรังที่เตรียมไว้ และเริ่มดูแลลูก เยื่อบางๆที่หุ้มลูกนั้นจะถูกกินโดยแม่หนู ซึ่งในเยื่อนี้จะมีสารที่มีประโยชน์อยู่คือ ฮอร์โมน และ สารอาหารอื่นๆ ที่ลูกหนูใช้ขณะที่อยู่ในครรภ์แม่ ซึ่งเยื่อนี้ค่อนข้างสำคัญ ถ้าเราเห็นแม่หนูแฮมสเตอร์พยายามกิน ก็อย่าไปขัดขวาง หรือ รบกวนครับ เป็นกลไกตามธรรมชาติ เพื่อชดเชยสิ่งที่สูญเสียไปครับ

วันที่แม่หนูแฮมสเตอร์ของเราคลอดลูกแม่ มีลูกหนูอยู่คัวหนึ่งขาขาด เชื่อว่าเกิดจากการที่แม่หนูพยายามกัดรกให้แต่พลาด ทำให้ลุกหนูขาขาดไป 1 ข้าง และมีเลือดไหล ซึ่งแม่หนูออกลุกตอน 8.20 น. แต่เมื่อเรากลับมาดูลูกหนูอีกครั้งตอนเที่ยง พบว่าแม่หนูตัดสินใจฆ่าลูกหนูทิ้งไปแล้วโดยกินส่วนหัวไป เพราะเห็นว่าลูกหนูไม่รอด ดีกว่าปล่อยให้ลุกหนูทรมาณ และหากแม่หนูปล่อยทิ้งไว้ ลูกหนูตัวนั้นก็คงจะไม่รอดเช่นกัน เพราะแม่หนูออกลูกมา 9 ตัว หากแม่หนูปล่อยทิ้งไว้ ลุกหนูตัวนั้นก็ไม่สามารถจะแย่งอาหารจากพี่น้องได้ และขาที่ขาดก็ยังสร้างความทรมาณให้ลูกหนูอีกด้วย

กฏเหล็กของผู้เลี้ยง
เราเรียกว่ากฏเหล็กครับ สำคัญมาก ต้องจำไว้ว่า
" อย่าไปรบกวน รังของแฮมสเตอร์ อย่างน้อย 10 วันหลังจากที่แม่หนูคลอดลูกออกมา " ถ้าสมมติ ว่าลูกหนูที่เพิ่งเกิดคลานสะเปะสะปะ ออกไปและพลัดหลงกับแม่ ก็อย่าเข้าไปยุ่งครับ แม่หนูจะมาหาลูกและพากลับรังเอง บางทีลูกหนูก็จะพยายามหาทางกลับไปยังรังที่อบอุ่น และไปหาแม่ได้เอง เราอย่าไปยุ่ง เพราะถ้ารังของแม่หนูถูกรบกวน โดยเฉพาะในแม่หนูที่เพิ่งจะออกลุกเป็นครั้งแรก แม่หนูจะพยายามปกป้องลูก ด้วยวิธีเดียวที่เค้ารู้ คือ แม่หนูจะฆ่า และกินลูกของตนเอง อีกอย่างที่เราต้องระวังก็คือ อาหารและน้ำในกรง ต้องมีมากเพียงพอ ถ้าแม่หนูเกิดวิตกกลัวว่า อาหารและน้ำ ที่มี ไม่เพียงพอสำหรับแม่หนูและลูกๆแล้วล่ะก็ ด้วยสัญชาตญาณ แม่หนูจะช่วยฆ่าลูกของตนเอง เพราะเป็นวิธีเดียวที่แม่หนูรู้ และเชื่อว่า การฆ่าลูกเอง หรือการกินลูก ยังดีกว่าปล่อยให้ลูกขาดน้ำ ขาดอาหาร และค่อยๆตายไปด้วยความหิว และความทรมาณ

หลังจากที่ลูกหนูเกิดขึ้นมา 3 วัน
หลังจากที่ลูกหนูเกิดขึ้นมา 3 วัน ระยะนี้ลูกหนูยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มักจะนอนหงายและตะกายเท้าไปมาสะเปะสะปะ และจะดูดติดนมแม่เกือบตลอดเวลา ขนจะเริ่มขึ้น เห็นบนผิวเป็นสีเข้มๆ ตรงตำแหน่งที่เป็นลวดลายและ หู ส่วนมาร์คกิ้งจะเริ่มเด่นชัดในวันที่ 5 หลังการคลอด เริ่มจะมองออกว่าลูกหนุเป็นสีอะไร

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เราจะต้องพยายามลดระดับน้ำในถาชนะที่ลูกหนูสามารถจะปีนลงไปได้ เพราะลูกหนูจะยังไม่ลืมตา แต่เค้าจะเริ่มซนพยายามจะคลานไปมา โดยที่วันที่ 5 หลังการคลอดลูกหนูจะเริ่มคว่ำตัวได้นานขึ้น และเริ่มสังเกตเห็นหูได้ชัดขึ้น

หลังจากที่ลูกหนูเกิดขึ้นมา 7-8 วัน
ลูกหนูจะมีขนปกคลุมทั้งตัว และมีสีสันลวดลายเห็นเด่นชัด เค้าจะเริ่มดูเหมือนพ่อแม่ เพียงแต่ตัวจะเล็กจิ๋วเท่านั้น แต่เค้ายังคงมองไม่เห็น และยังคงเดินสำรวจไปมารอบๆ และเริ่มใช้มือหรือเท้าคู่หน้า หยิบจับอาหารและงับๆแทะๆได้

หลังจากที่ลูกหนูเกิดขึ้นมา 13 วัน
เค้าจะเริ่มลืมตา และมองเห็น และตอนนี้นี่เอง เราสามารถจะทำความสะอาดกรง และอาจจะทำความสะอาด

หลังจากที่ลูกหนูมีอายุ 21-28วัน
เค้าสามารถจะแยกจากแม่ได้แล้วครับ ซึ่งเราควรจะแยกลูกหนูตามเพศทันทีที่เค้าหย่านม

การพักแม่หนุ
ควรจะให้แม่หนูพักผ่อน อย่างน้อย 1 สัปดาห์ หลังการหย่านมลูก จึงค่อยเอามาผสมอีก

ลูกหนูกับ ที่อยุ่ที่อับชื้น

บางทีอาจจะเป็นไปได้ว่าน้ำจากขวดน้ำหก หรือเกิดเหตุสุดวิสัย ที่ทำให้กรงที่แม่หนูเตรียมไว้ เปียกชื้น ไม่เหมาะแก่สุขภาพของทั้งแม่หนูและลูกหนูอีกต่อไป ถึงแม้ว่าจะไม่ควรไปรบกวนแม่หนูและลูกหนูในช่วง 10 วันแรกก็ตาม แต่ในกรณีนี้ถือว่าจำเป็นเพราะแฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่สะอาด และไม่ชอบอยู่ในที่ชื้นแฉะ การเปลี่ยนแปลงกรง ให้ทำแบบช้าๆ ค่อยๆ
ในแฮมสเตอร์แคระ
หนูแฮมสเตอร์แคระค่อนข้างเป็นสัตว์ที่ใจกว้าง สามารถจะทำดังนี้
1. ใส่วัสดุรองพื้นอย่างขี้เลื่อยใหม่ เพียงเล็กน้อยลงไป ลงในภาชนะ เตรียมพร้อมไว้สำหรับ พ่อและแม่หนู
2. พยายามเอาพ่อแม่หนูออกจากกรงอย่างเบามือ โดยใช้เหยือก หรือภาชนะ ช้อนเค้าออกมา ซึ่งพวกเค้าอาจจะไม่ค่อยยอม เพราะพยายมจะอยู่ใกล้ลูก ปกป้องลูกน้อย
3. หลังจากเอาพ่อแม่ไปไว้ที่อื่นแล้ว พยายามจำตำแหน่งรัง และเริ่มทำการย้ายรังและลูกหนู โดยพยายามเอามือทั้ง 2 มือ รวบส่วนของรังที่แม่หนูสร้างไว้ ติดมาให้มากที่สุด โดยมีลูกหนูติดมาด้วย โดยเอาส่วนที่เปียกออก พยายามอย่าให้มือสัมผัสกับลูกหนูโดยตรง อาจจะใช้ช้อนสะอาดไม่มีกลิ่นมือคน ตักลูกหนูออกมา
4. เอารังและลูกหนูใส่ไว้ในชาม หลังจากนั้นให้ทำความสะอาดกรง
5. ทำความสะอาด ใส่เศษทิชชู่ใหม่เข้าไปเพื่อให้แม่หนูใช้ซ่อมกรง เติมน้ำ เติมอาหารใหม่ให้พร้อม แล้ว วางอาหารโปรด อาหารพิเศษ เช่น แอปเปิล ไว้อีกมุมหนึ่งในกรง ให้ห่างจากตำแหน่งรังเดิมมากๆ
6. เอารังและลูกหนูในชาม ใส่กลับเข้าไปในกรง โดยพยายามวางลงในตำแหน่งเดิม เพื่อให้พ่อแม่หนูไม่ระแวงและกินลูกตัวเอง
7. วางพ่อ และแม่หนูลงไปในกรง โดยพยายามวางพ่อแม่หนูลงตรงอาหารพิเศษที่เตรียมไว้ ซึ่งช่วยถ่วงเวลาพ่อแม่หนูได้ เพื่อให้ลูกหนูขยับตัว คลานไปมา จนอยู่ในสภาพคล้ายๆกับเมื่อก่อนตักพ่อแม่หนูออกไป หลังจากนั้น อย่าไปรบกวนพวกเค้าอีกครับ

11 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

เอาตัวผู้ไว้กะลูกได้มั้ยครับบบ

Unknown กล่าวว่า...

ราคาตัวละเท่าไหร่คะ?

Unknown กล่าวว่า...

ไม่รู้ว่าหมูคลอดลูกแล้วดันไปเปลี่ยนขี้เลื้อยเค้า จับไปโดนตัวลูกหนูด้วย ทำงัยดีค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

ถ้าลุกตัวเล้กยุๆไม่ได้เดวเค้ากินลุกแต่ถ้าลุกโตแล้วเค้าก้จะกัดลุกตัวเอง

Unknown กล่าวว่า...

80-100จ้า

Unknown กล่าวว่า...

เค้าก้จะกินตัวเอง

Ray กล่าวว่า...

แม่กินลูกตอนอายุได้8วันเป็นเรื่องธรรมดาป่าวค่ะ เป็นไปได้มั้ยว่าเพราะไม่แข็งแรงหรือเค้าเครียดค่ะ แล้วแก้ปัญหาไงดีค่ะแม่ชอบปีนกรงแล้วตกทับบ่อยมากตลอดๆทุกวัน ��

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมให้3ตัว200฿ครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมให้3ตัว200฿ครับ

Tassaneewan กล่าวว่า...

แม่หนูเกิดลูก 6 ตัว กินไป 1 เอาไปเลี้ยง 4ตัว อีก1ตัว ไม่ยอมเลี้ยง ทำไงดีคะ

Unknown กล่าวว่า...

แม่หนูพยายามออกจากกรงค่ะหลังคลอดลูก ควรทำอย่างไรดี แม่หนูเครียดรึป่าวคะ